โรคซิฟิลิส

            โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทรีโพนีมาพาลลิดัม (Treponema pallidum) เมื่อได้รับเชื้อจะกระจายไปตามกระแสโลหิต ทำให้เกิดพยาธิสภาพได้เกือบทุกอวัยวะ

การติดเชื้อ

 ติดต่อได้ 2 ทางคือ
1. จากมารดาสู่ทารก โดยมารดาที่มีเชื้อซิฟิลิสสามารถส่งเชื้อผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ ทำให้ทารกติดเชื้อตั้งแต่กำเนิด
2. ทางเพศสัมพันธ์ จากคู่สมรสที่มีเชื้อถ่ายทอดให้อีกฝ่าย                - มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ ลักษณะแผลเรียบสะอาด ขอบแข็งไม่เจ็บ ส่วนใหญ่เป็นแผลเดี่ยวตื้นๆ เรียกว่าแผลริมแข็ง แผลจะหายได้เองในเวลา 1-2 สัปดาห์ 
            - ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต กดไม่เจ็บ

การปฏิบัติตัวในระหว่างการรักษา

         1. มาพบแพทย์ตามแผนการรักษา ผู้ป่วยที่ได้รับยาฉีด ให้มาฉีดยาตามวัน เวลาที่แพทย์กำหนด และครบตามจำนวนครั้งที่แพทย์สั่ง ในกรณีที่รักษาด้วยยารับประทานให้มาพบแพทย์ตามนัด       

ระยะฟักตัว

     โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2-4 สัปดาห์           

อาการและอาการแสดง


ระยะที่สอง
เกิดหลังจากเป็นแผลริมแข็ง 6 สัปดาห์ถึง 6 เดือน
- มีแผลที่อวัยวะเพศ อาจเป็นแผลเดี่ยวหรือหลายแผล ลักษณะเป็นรอยนูนขึ้นจากผิว
- มีผื่นขึ้นตามตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
- อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ  คลื่นไส้อาเจียน
- ผมร่วงเป็นหย่อมๆ หรือมีขนคิ้วร่วงร่วมด้วย
- ระยะนี้อาการอาจหายไปเองได้ แม้ไม่ได้รับการรักษา แต่เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ผลเลือดซิฟิลิสเป็นบวกทุกราย 
ระยะที่สาม (ระยะแฝง)
- ระยะนี้จะไม่ปรากฏอาการใดๆของโรค แต่สามารถตรวจพบเชื้อได้ในกระแสเลือด ผลเลือดซิฟิลิสเป็นบวก ในสตรีที่มาฝากครรภ์และผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มักพบโรคซิฟิลิสระยะแฝงนี้มากกว่าระยะอื่น

เป็นโรคซิฟิลิสแล้วมีอันตราย

            ผู้ที่มีเชื้อซิฟิลิส หากไม่ได้รับการรักษา หรือรักษาไม่ครบตามคำสั่งการรักษาของแพทย์ เชื้อจะแพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น  หัวใจ สมอง น้ำไขสันหลัง ทำให้เกิดอาการหลอดเลือดหัวใจอักเสบ ปวดศีรษะ ตาบอด หูหนวก สติปัญญาเสื่อม วิกลจริต หรือถึงกับเสียชีวิตได้
             สำหรับสตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อซิฟิลิส อาจเกิดภาวะแท้ง ทารกเสียชีวิตในครรภ์ คลอดก่อนกำหนด หรือทารกพิการแต่กำเนิดได้

การรักษา

                       ปัจจุบันยังนิยมรักษาด้วยยาเพนนิซิลิน  ซึ่งเป็นยาที่ได้ผลดีในการรักษาโรคนี้ให้หายได้ โดยการฉีดยาเพนนิซิลินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ต่อเนื่องในการทำลายเชื้อ ในกรณีที่ผู้ป่วยแพ้ยาเพนนิซิลิน  จะให้ยาชนิดอื่นรับประทาน  เช่น อีริโทรมัยซินรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน 1 เดือน
2. ถ้ารับการรักษาไม่ครบตามคำสั่งแพทย์ ต้องเริ่มต้นรักษาใหม่
3. หากมีประวัติเคยแพ้ยาเพนนิซิลิน ต้องบอกให้แพทย์ทราบก่อนการรักษา
4. การติดตามผลการรักษา แพทย์จะนัดมาตรวจเลือดหลังได้รับการรักษาครบ 3 เดือนและนัดเป็นระยะๆ จนครบ 5 ปี หรือเมื่อแพทย์พิจารณาเห็นควรให้เลิกนัดได้  
5. กรณีที่ยังรักษาไม่ครบ คู่สมรสยังไม่ได้รับการตรวจเลือด หรือคู่สมรสมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ แนะนำให้งดเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์       
6. หากตั้งครรภ์ ควรมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของมารดาและทารกในครรภ์ 
7. สำหรับทารกที่เกิดจากมารดาที่มีเชื้อซิฟิลิส  ควรได้รับการดูแลโดยกุมารแพทย์  ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อลดความผิดปกติของอวัยวะในระยะยาว
8. แนะนำให้คู่สมรสมารับคำปรึกษาและการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อซิฟิลิส                            
9. ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง  เพราะจะทำให้โรคไม่หายขาดและอาจแพ้ยาได้