แผลริมอ่อนเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Haemophilus Ducreyi โรคนี้ติดต่อได้ง่าย แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาด โรคนี้จะทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศ และต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต บางครั้งมีหนองไหลออกมาที่เรียกว่าฝีมะม่วง หากไม่รักษาจะเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อ HIV ได้ง่าย
การติดต่อแผลริมอ่อน
โรคนี้ติดต่อได้สองวิธีคือ
- ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีการสัมผัสแผลระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์
- ติดต่อโดยการปนเปื้อนหนองไปติดผิวหนังส่วนอื่น
อาการของโรคแผลริมอ่อนนี้เป็นอย่างไร
- ผู้ที่รับเชื้อนี้จะมีอาการหลังจากรับเชื้อแล้ว 3-10 วัน
- อาการเริ่มต้นจะเป็นตุ่มนูนและมีอาการเจ็บมักจะเป็นบริเวณเส้นสองสลึง หลังจากนั้จะมีแผลเล็กๆ ก้นแผลมีหนอง ขอบแผลนูนไม่เรียบ มีอาการเจ็บมาก แผลเล็กๆจะรวมกันเป็นแผลใหญ่
- แผลจะนุ่มไม่แข็ง(โรคซิฟิลิสจะมีขอบแผลแข็ง)
- จะมีอาการเจ็บแผลมากในผู้ชาย แต่ผู้หญิงอาจจะไม่มีอาการเจ็บทำให้เกิดการติดต่อสู่ผู้อื่นได้ง่าย
- ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะโต กดเจ็บ บางคนแตกเป็นหนองที่เรียกว่าฝีมะม่ว
โรคนี้วินิจฉัยแผลริมอ่อนได้อย่างไร
- การวินิจฉัยทำได้โดยการน้ำหนองที่ก้นแผลไปย้อมเชื้อก็จะพบเชื้อโรค
- การเพาะเลี้ยงเชื้อเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคยังมีความแม่นยำต่ำ
- การตรวจ Polymerase chain reaction (PCR)จะมีความไว 96-100%
แผลริมอ่อนนี้รักษาอย่างไร
ยาที่ใช้รักษาได้แก่
- Azithromycin 1 gram ครั้งเดียว
- Ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามครั้งเดียว
- Ciprofloxacin 500 mg วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน ไม่ควรให้ในคนท้อง
- Erythromycin 500 mg วันละ 4 ครั้งเป็นเวลา 7 วัน
แผลมากจะดีขึ้นใน 3-7 วัน ระยะเวลาในการรักษาขึ้นกับขนาดของแผล แผลที่มีขนาดใหญ่อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษา 2 สัปดาห์
การป้องกันแผลริมอ่อน
- อย่าสำส่อนทางเพศ
- ใช้ถุงยางอนามัยที่ทำจากยางธรรมชาติ(ป้องกันได้เฉพาะอวัยวะเพศเท่านั้น ผิวหนังส่วนอื่นไม่สามารถป้องกัน)
- หากมีแผลให้งดการมีเพศสัมพันธ์
โรคแทรกซ้อนแผลริมอ่อน
- เนื่องจากเป็นแผลทำให้เกิดการติดเชื้อ HIV ง่ายขึ้น
- ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบอาจจะอักเสบจนแตกเป็นหนองไหลออกมา หากไม่รักษาใน 5-8วันหลังจากเกิดแผล
- แผลอาจจะเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย
- หากเป็นแผลที่หนังอวัยวะเพศชายอาจจะเกิดพังผืด